น้องหมา คุณรู้หรือไม่ว่าเพื่อนสุนัขในบ้านคนใด กำลังประสบกับปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ในบริเวณหูของพวกเขา แม้ว่าบางคนอาจละเลยความสำคัญของหูของสุนัข แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าอวัยวะเหล่านี้ต้องการการดูแลในระดับเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ความล้มเหลวในการดูแลหูของสุนัขอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้สัตว์ป่วยและไม่สบายได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสุนัขที่มีขนหูเยอะ เนื่องจากพวกมันจะไวต่อโรคในช่องหูมากกว่า คุณสังเกตเห็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เล็ดลอดออกมาจากหูของคุณเองหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญอยากแบ่งปันเทคนิคการเลี้ยงและดูแล น้องหมา ให้เพื่อนๆการละเลยสุขภาพช่องหูของสุนัข อาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจวิธีการดูแลหูสุนัขของคุณอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาสุขภาพ
คุณเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนไหม การละเลยขนในหูของสุนัขเป็นระยะเวลานานหรือไม่ทำความสะอาดเลย อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงได้ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าช่องหูของสุนัขมักถูกมองข้ามโดยเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคน อย่างไรก็ตามคลองนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสิ่งสกปรก เช่น เห็บ ไร หมัด ผิวหนังที่ตายแล้ว ขี้หู แบคทีเรีย ยีสต์และอื่นๆ
สุนัขบางสายพันธุ์ เช่น บีเกิล บาสเซต ค็อกเกอร์สแปเนียล ฮาวด์ ปั๊กและอื่นๆ มีหูที่ยาวและพับ หูเหล่านี้สร้างความท้าทายในการระบายน้ำ และสิ่งสกปรกเนื่องจากการไหลเวียนของอากาศไม่ดี ซึ่งทำให้หูเหล่านี้กักเก็บความชื้นไว้ ส่งผลให้สุนัขที่มีหูลักษณะนี้ มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการหูอักเสบต่างๆและมักมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือมีกลิ่นตัวรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการขาดการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
การละเลยที่จะดูแลหูเหล่านี้ สามารถนำไปสู่การอักเสบในช่องหู การปรากฏตัวของไร และการสูญเสียการได้ยินในที่สุด ในการระบุการติดเชื้อที่หูในสุนัข สิ่งสำคัญคือ ต้องใส่ใจอย่างใกล้ชิดกับอาการบางอย่าง สัญญาณเริ่มต้นของการติดเชื้อ ที่หูอาจรวมถึงการสั่นศีรษะบ่อยๆ การพยายามเกาหูอย่างต่อเนื่องและการมีขี้หูสีเข้ม
นอกจากนี้ หูที่ได้รับผลกระทบอาจมีกลิ่นเหม็นและมีของเหลวสีเหลือง สีน้ำตาลหรือเลือดไหลออกมา ในบางกรณีสุนัขอาจมีปัญหาในการทรงตัวและอาจเดินไปมาผิดปกติ ในกรณีที่สุนัขแสดงอาการเป็นประจำ เช่น มากกว่า 5-10 ครั้งต่อวัน แนะนำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อประเมินอาการ
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการอักเสบที่เกิดจากอาการเหล่านี้ อาจแย่ลงและส่งผลให้เกิดการติดเชื้อเรื้อรังที่แก้ไขได้ยาก ตามคำกล่าวที่ว่า การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา เพราะการรักษาการติดเชื้อเรื้อรังในภายหลัง อาจทำให้ต้องเสียค่ารักษาสูง สำหรับสุนัขขนสั้น การกำจัดขนออกจากหูอาจไม่จำเป็น แต่สิ่งสำคัญคือต้องรักษาความสะอาดด้วยการเช็ดเป็นประจำ
เพื่อให้บรรลุผลดังกล่าว คุณสามารถซื้อน้ำยาทำความสะอาดหูสำหรับสุนัขโดยเฉพาะได้ จากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงหรือสัตวแพทย์ใกล้บ้านคุณจะแนะนำได้ สุนัขที่มีขนยาวและหูพับ หรือยาวจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ หากเพื่อนขนยาวของคุณมีทั้งขนหนาและขนหู ขอแนะนำให้เอาขนออกจากหูบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม หากมีคนต้องการพาสุนัขไปหาช่างตัดแต่งขนมืออาชีพ สิ่งสำคัญคือต้องสื่อสารกับช่างตัดแต่งขน เกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาสุขอนามัยและสุขภาพหูของสุนัข ในระหว่างขั้นตอนการตัดแต่งขน นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในการหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น การทำความสะอาดหูสุนัขเป็นงานที่เจ้าของสุนัขเองสามารถทำได้ง่ายๆ
ขอแนะนำให้เริ่มทำความสะอาดหูสุนัขของคุณตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อให้สุนัขคุ้นเคยกับกระบวนการนี้และไม่ขัดขืน นอกจากนี้ อาจใช้ของเล่นหรือรางวัลเพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก กับการทำความสะอาดหูสำหรับสุนัขของคุณ เพื่อรักษาสุขอนามัยหูของสุนัข ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณทำความสะอาด และเช็ดหูของสุนัขให้แห้งหลังอาบน้ำทุกครั้ง
สำหรับสุนัขที่มีหูยาว แนะนำให้ทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เริ่มต้นด้วยการชโลมน้ำยาทำความสะอาดหูลงในช่องหู จากนั้นนวดบริเวณฐานหูประมาณ 20 ถึง 30 วินาที สุดท้ายใช้สำลีชุบน้ำทำความสะอาดช่องหู ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ขี้หูออกหมดแล้วและหูแห้งสนิท ในกรณีที่คุณสังเกตพบกลิ่นผิดปกติ และไม่พึงประสงค์ออกมาจากหูของสุนัข
หากคุณสังเกตเห็นว่า สุนัขของคุณเกาหูบ่อยๆ หรือมีน้ำขังอยู่ในหู สิ่งสำคัญคือต้องนัดพบสัตวแพทย์โดยด่วน ไม่แนะนำให้เลื่อนการเข้ารับการรักษาออกไปจนกว่าปัญหาจะเรื้อรัง และอาจแก้ไขได้ยากขึ้น มีข้อจำกัดในการทำความสะอาดหูสุนัขด้วยตัวเอง เนื่องจากโครงสร้างรูปตัว L ของช่องหูของสุนัข การทำความสะอาดอย่างระมัดระวังและอ่อนโยนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ขอแนะนำว่าอย่าใช้เครื่องมือทำความสะอาดแบบทิ่มแทง หรือหมุนหูของเพื่อนขนฟูของคุณ ให้เลือกใช้การเช็ด เพื่อรวบรวมเศษขยะแทน สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดหู เพราะอาจทำให้ช่องหูอักเสบ และทำให้สุนัขรู้สึกไม่สบายได้ หากสุนัขของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับหูหรือช่องหูที่ผิดปกติ ขอแนะนำให้ไปหาสัตวแพทย์ สัตวแพทย์จะตรวจและรักษาสุนัขของคุณตามอาการ
สาเหตุและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการเก็บตัวอย่างขี้หู ติดฉลาก และตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อระบุตัวไรในหู หรืออาจใช้สีย้อมเพื่อตรวจหาการติดเชื้อแบคทีเรียและยีสต์ อาจมีการกำหนดยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของการติดเชื้อ อาจใช้ยากลูโคคอร์ติคอยด์ เช่น เดกซาเมทาโซนในรูปของยาหยอดหูหรือยาเม็ด เพื่อบรรเทาอาการอักเสบในช่องหู
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : อายุขัย เป็นไปได้ไหมที่คนทั่วไปจะใช้เทคโนโลยีข้ามขีดจำกัดของอายุขัย
